วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

บทเรียนจากปลาหางนกยูง

     ที่บ้านฉันมีสัตว์นานาชนิดอาศัยอยู่ร่วมกันมากมาย ทุกตัวล้วนเดินทางมาอยู่ด้วยตัวเอง ไม่มีใครเคยถามความสมัครใจของฉันเลยว่าต้องการเลี้ยงพวกมันหรือไม่

      สัตว์เลี้ยงประจำบ้านคือ แมว ผู้ครอบครองพื้นที่ทุกตารางนิ้วของบ้านไว้หมดแล้ว เพียงแต่ว่าแมวยังไม่มีโฉนดเป็นของตัวเองเท่านั้นเอง แมวทุกตัวล้วนเดินเท้ามาทางภาคพื้นดินและทางหลังคา เมื่อมาถึงประตูบ้านแล้วแมวก็ล้มตัวลงนอนขวางทางเข้าออก แล้วเดินไปมาแถวนั้นไม่ยอมย้ายหนีไปที่ไหนอีกต่อไป นั่นหมายความว่าพวกแมวได้ตกลงปลงใจแล้วว่าจะอยู่ที่นี่ ให้ฉันเป็นผู้หาอาหารมาเลี้ยงดูนับแต่วันนั้นเป็นต้นไป...ทุกสิ้นเดือนฉันต้องเตรียมเงินไว้ซื้ออาหารเม็ดและทรายแมว..เพื่อพวกมัน

      ฉันยังมีหมาจรจัดที่แอบเข้ามานอนในบ้านอยู่หลายตัวโดยเฉพาะเวลาฝนตกหนัก พวกหมามักไม่มีที่หลบฝน แต่ละตัวจะมายืนออหน้าบ้าน ทำตัวเหมือนเล่นมิวสิควิดิโอ คือปล่อยให้หู หาง เนื้อตัวเปียกฝนชุ่มโชกโดยไม่ยอมขยับหนีไปไหน ทำหน้าตาเศร้าสร้อยราวนางเอกอกหักรักคุด รอจนกว่าฉันจะใจอ่อนเปิดประตูให้พวกมันเข้ามาหลบในบ้าน พวกมันจะดีใจมาก กรูเข้ามาอย่างรวดเร็ว และแยกย้ายหลบตามซอกมุมลานหน้าบ้านเท่าที่พอจะซุกหลบได้ พอฝนซาทุกตัวก็จะรู้หน้าที่ รีบลุกขึ้นอออกจากบ้านไปแต่โดยดี แต่สุดท้ายก็มีอยู่ตัวหนึ่งที่ไม่ยอมออกจากบ้าน ไม่ว่าฉันจะใช้สันติวิธีพูดดีๆ จนกระทั่งเอาน้ำสาด ไม้กวาดไล่  แต่มันก็ไม่ยอมออกจากบ้านไปเสียที น้องหมาดำกลับล้มตัวลงนอนยอมตายเสียดีกว่าที่จะออกจากบ้านนี้ไป ในที่สุดฉันก็ได้หมาขี้เรื้อนสีดำหนึ่งตัวมาอยู่ในบ้าน และแน่นอนทุกสิ้นเดือนนอกจากอาหารแมว ทรายแมว ฉันต้องซื้อโครงไก่ ตับ และอาหารหมาเสริมเข้าไปอีกด้วย

     เวรกรรมไม่หมดสิ้น หลายปีก่อน มีนกแก้วบินหลงทางมาจากไหนไม่ทราบได้ มันบินมาเกาะใกล้ๆ ขณะฉันที่กำลังตากผ้าริมระเบียง สร้างความตื่นตะลึงให้ฉันเป็นอย่างมาก ฉันร้องทักเล่นๆ ว่า "แก้ว แก้วจ๋า" ดั่งนรกชังสวรรค์แกล้ง นกแก้วเอียงคอมองฉันอย่างสนใจ และเดินเตาะแตะตรงมาหาฉันทันที แล้วบ้านเราก็มีนกแก้วเป็นของตัวเอง ทุกเช้านกแก้วตัวแสบจะต้องแหกปากร้องดัง แกรก แกรก ดังลั่นราวนาฬิกาปลุกไปถึงปากซอย สร้างความรำคาญให้เพื่อนบ้านยิ่งนัก ในที่สุดเราก็ตัดสินใจนำไอ้แก้วปล่อยออกจากกรง ฉันบอกมันด้วยเสียงอ่อนโยนว่า "บินไปเลยแก้ว ไปให้ไกลที่สุดนะ" นกแก้วบินไปไม่ถึงสี่เมตร แล้วยูเทิร์นกลับ เกาะที่พื้นแล้วเดินเข้าไปอยู่ในกรงด้วยตัวเอง เป็นเรื่องที่ฉันไม่เข้าใจจนถึงวันนี้ว่าทำไมนกแก้วถึงไม่หนีไป ทำไมต้องมาอยู่กับฉัน...แน่เสียยิ่งกว่าแน่..นับจากนั้น ฉันต้องซื้อ อาหารแมว ทรายแมว อาหารหมา โครงไก่ ตับ และเมล็ดทานตะวันสำหรับนกแก้วด้วย

      หลังบ้านฉันยังมีครอบครัวนกเขาที่จะมาขอข้าวกินเช้าเย็น แรก ๆ ฉันนึกเอาเองว่านกเขาเป็นสัตว์ที่ไม่ฉลาด แต่ผิดคาด เพราะนกเขานั้นจำหน้าฉันได้แม่นยำราวกับญาตินก เมื่อฉันออกไปชมวิวครั้งใด แก๊งนกเขาสามช่า จะบินจากอีกฝั่งคลองมาเกาะริมรั้ว แล้วเดินไปที่จานว่างเปล่าที่ฉันชอบเอาข้าวสุกที่เหลือไปวางให้นกกิน นกเขาผงกหัวไปมามองฉันราวกับว่า "ไปเอาข้าวมาให้กินหน่อยสิจ๊ะ นี่หน้าที่เธอไม่ใช่หรือ"  ฉันไปตักข้าวสุกมาวางไว้บนจาน ครอบครัวนกเขาก้มลงจิกข้าวกินอย่างมีความสุข และจะบินกลับมาเพื่อมองหาฉันและขอข้าวกินอีกครั้งตอนเย็น

     หน้าที่รับใช้สรรพสัตว์ของฉัน ยังไม่จบสิ้นลง เมื่อวันหนึ่งมีผู้หวังดีนำปลาหางนกยูงมาใส่ในอ่างหน้าบ้านไว้สองตัวเพื่อช่วยกินยุง  หลังจากนั้นไม่นาน ในอ่างน้ำก็มีปลาหางนกยูงนับร้อยตัว ซึ่งไม่จำเป็นต้องตรวจดีเอ็นเอก็มั่นใจได้ว่าพวกมันทั้งอ่างเป็นญาติกันหมด ในอ่างไม่มีลูกยุงหลงเหลือให้มันกินอีกต่อไป นับแต่นั้นฉันจะต้องไปซื้ออาหารปลามาฝากมันด้วย
    
     ดังนั้นทุกสิ้นเดือน ฉันต้องซื้ออาหารแมว ทรายแมว อาหารหมา โครงไก่ ตับ เมล็ดทานตะวัน และอาหารปลา เป็นภารกิจที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว

     การเลี้ยงสารพัดสัตว์ของฉันกลายเป็นหน้าที่ของความเคยชิน  ทุกเช้าฝูงแมวจะตื่นกันตั้งแต่หกโมงเช้า และช่วยกันร้องเรียกฉันราวนาฬิกาปลุกที่ไม่เคยถ่านหมด เมื่อฉันไม่ตื่น จะมีแมวตัวที่กล้าหาญมาถึงที่นอน และใช้มือตบหน้าเบา ๆ หากฉันพยายามคว่ำหน้า แมวก็จะสอดมือล้วงเข้าไปตบหน้าต่อไปไม่หยุดยั้ง ทางที่ดีก็คือรีบตื่นขึ้นมาให้อาหารแมวโดยด่วน การร้องขออาหารของแมวได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็ว เพื่อตัดความรำคาญ

   เมื่อฉันลงมาชั้นล่างของบ้าน เสียงแกรก ๆ ของนกแก้วนั้นแหลมคมทะลวงโสตประสาทได้ดียิ่งนัก ทำให้ฉันต้องรีบวิ่งไปตักเมล็ดทานตะวันใส่ในกรงนกแก้วอย่างรวดเร็ว นกแก้วได้อาหารเป็นอันดับที่สอง

  น้องหมาดำที่นอนใกล้ ๆ มองฉันด้วยสายตาเศร้าสร้อย มันไม่เคยร้องขออาหารใด ๆ เหมือนแมวและนก มันจึงได้กินอาหารช้ากว่าใครๆ และบางทีฉันก็ลืมให้อาหารมันจนไปถึงตอนเที่ยง หมาน้อยไม่เคยบ่น แต่ระยะหลังน้องหมาดำใช้วิธีเดินไปมาและพยายามพันแข้งพันขา ให้ฉันสำนึกได้ด้วยตัวเองว่าควรนำอาหารมาให้มันได้แล้ว  น้องหมาดำได้อาหารเป็นอันดับที่สาม

  สัตว์ที่น่าสงสารที่สุดคือปลาหางนกยูง ฉันมักจะลืมให้อาหารปลาหางนกยูงเกือบทุกวัน บางทีลืมเป็นอาทิตย์ เนื่องจากปลาหางนกยูงไม่เคยร้องขอหรือส่งเสียงใด ๆ ยามฉันเดินผ่านอ่างปลาหางนกยูง พวกมันทำได้แค่ว่ายมามุงกันที่ริมอ่าง ซึ่งถ้าฉันไม่สังเกตก็จะไม่มีวันเห็น ทุกวันปลาหางนกยูงไม่เคยได้อาหาร พวกมันว่ายวนไปมาด้วความหิวโหย

    ฉันค้นพบว่าบางครั้งเราต้องเสียโอกาสในชีวิตมากมาย จากการเก็บงำความต้องการของตัวเอง ดูได้จากแมวและนกแก้วที่เรียกร้องสิทธิของตัวเองอย่างเต็มที่ และได้รับการตอบสนองทันที น้องหมาดำเรียกร้องเล็กน้อยก็ได้เป็นอันดับสาม และปลาหางนกยูงจะได้รับเป็นอันดับท้ายเสมอหรือไม่ได้รับอะไรเลย เพราะไม่ได้แสดงออกและเรียกร้องสิ่งที่ต้องการ

     เราคงไม่อยากเป็นปลาหางนกยูง ที่ได้แต่ว่ายวนไปมา โดยไม่มีจุดหมาย ไม่เคยแสดงเจตจำนงว่าต้องการสิ่งใด สุดท้ายก็ไม่มีใครรู้ว่าเราต้องการสิ่งใด กว่าจะได้สิ่งที่ต้องการก็มักจะได้เป็นคนสุดท้ายเสมอ หรืออาจไม่เคยได้สิ่งที่หวังเลยก็ได้

    อยากได้ อยากมี อยากเป็น สิ่งใด ฉันจะไม่เก็บไว้ในใจอีกแล้ว.. เราควรเรียกร้องสิ่งที่เราควรได้และลงมือทำทันที
   ฉันจะร้องเสียงดังให้เหมือนแมว..แผดเสียงทำลายประสาทให้เหมือนนกแก้ว..เดินไปมาพันแข้งขาไม่หยุดให้เหมือนน้องหมา..แต่ฉันจะไม่มีวันว่ายวนไปมาโดยไม่รู้ชะตากรรมเหมือนปลาหางนกยูง

Paokuntima 
9 สิงหาคม 2554