วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ดอกไม้ภายใน


หลายวันก่อนผมเก็บดอกเข็มอุณากรรณสีชมพูอ่อนบานสวยสองสามดอกที่ร่วงหล่นลงมาซบพื้นตรงนอกชานบ้านเอามาหยิบพินิจดูเล่น พลันก็เกิดความคิดขึ้นมาได้ว่า การเบ่งบานและคงอยู่ในเรือนต้น บนช่อดอกของเหล่าดอกไม้นั้นช่างแสนสั้น ดอกไม้ผลิบานเพื่อที่จะร่วงโรย เหตุใดกันช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด เบ่งบานเต็มที่ที่สุด เปล่งสีส่งกลิ่นเพื่อเรียกแมลง ผึ้งและหมู่ภมร กระทั่งสายตาคนให้หยุดอยู่กับความหอมความหวานของกลีบเกสร และความสวยงามของดอกไม้ จึงเป็นช่วงเวลาสุดท้ายเมื่อความงดงามความสมบูรณ์ถึงพร้อมในช่วงเวลาเบ่งบานของดอกไม้...แล้วก็ร่วงหล่นร่วงโรยไปอย่างง่ายดาย


อาจเป็นความรู้สึกเดียวกันนี้หรือไม่ที่ทำให้คนเราตระหนักและหวงแหนเวลาแห่งความสุข ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชีวิตจะเบ่งบาน เปล่งประกายเปี่ยมด้วยสีสันแห่งความสุขที่อยู่รายรอบออกมาให้คนอื่นๆ สัมผัสรับรู้ได้ดังกำลังมองการเบ่งบานของดอกไม้ แต่บ่อยครั้งเวลาแห่งความสุขก็ร่วงโรยและพ้นผ่านไปอย่างง่ายดายดุจห้วงเวลาสุดท้ายที่ดอกไม้สักดอกเบ่งบานเพื่อที่จะร่วงหล่นพ้นจากต้น

ผมหยุดดูดอกไม้ที่ผลิบานอยู่ในช่วงเวลานั้นและรับรู้ว่า แม้ดอกไม้ที่มองเห็นเหมือนจะสวยงามเพียงใดก็ตาม แต่ดอกไม้เหล่านี้ก็กำลังจะโรยรา เหี่ยวเฉา และแห้งเหี่ยวเปลี่ยนแปรไปอย่างรวดเร็ว เพราะชีวิตช่วงสุดท้ายของดอกไม้เมื่อหลุดจากกิ่งก้านช่อดอกและต้นออกไปแล้ว หากไม่มีการแช่น้ำถนอมเอาไว้ก็ย่อมง่ายดายที่ความสวยงามเบ่งบานที่เห็นจะเปลี่ยนสภาพและหมดเวลาแห่งความงดงามที่สัมผัสได้ไปอย่างรวดเร็วนัก

หากความรู้สึก ความตระหนักรู้เกี่ยวกับชีวิตและความสุขในคืนวันต่างๆ ที่ดำเนินไปของเราเบ่งบานเปรียบเหมือนดอกไม้จริงๆ ช่วงเวลาของความสุขคงไม่ทอดยาวไปได้ไกลเท่าไรนัก บางทีเราอาจต้องแปรเปลี่ยนความเบ่งบานและสีสันที่สวยงามของช่วงเวลาที่กำลังมีความสุขเหมือนดอกไม้ที่ผลิบานเต็มที่ แปรเปลี่ยนเข้ามาเก็บไว้ เป็นเหมือนภาพประทับใจของดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานอยู่ภายในตัวเรา...ไม่มีวันโรยราร่วงหล่น แต่เป็นดอกไม้ภายในที่อาจจะไร้การมีอยู่จริง มองไม่เห็น สูดดมกลิ่นไม่ได้ ชื่นชมกลีบดอกที่สวยงามเบ่งบานในขณะนั้นได้ยากเย็น

แต่หลับตาลงคราใด ก็รู้สึกถึงความสุขได้ทุกครา เหมือนภาพประทับของดอกไม้ที่ผลิบาน เบ่งบาน ไม่พ้นผ่าน ไม่หมดไป...นานเท่านาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น