วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เก่งไม่กลัว

คุณกระโดดได้สูงหรือเปล่า มีเสียงร้องที่ไพเราะ ตัวอ่อนตัวงอได้มากเป็นพิเศษ หรือว่าพอได้ยินเสียงดนตรีที่มีจังหวะก็สามารถขยับแข้งขยับขาได้สวยงามเข้าจังหวะอย่างน่าดูชม...

เมื่อวานเย็น ผมนั่งดูรายการ Thailand's Got Talent รอบสุดท้ายของผู้เข้าแข่งขัน 12 คนโดยที่ไม่ได้เชียร์ใครเป็นพิเศษ เรียกว่าดูเอาสนุกเอามันล้วนๆ แต่ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำว่า "ความสามารถพิเศษ" หรือ "พรสวรรค์" หรือ Talent ที่รายการนี้นำมาตั้งชื่อด้วยว่า จริงหรือไม่ที่คนเราทุกๆ คนมีความสามารถพิเศษ มีพรสวรรค์ที่ไม่ต้องเสาะแสวง หรือว่าจำเป็นเพียงใดที่เราจะต้องค้นหา ค้นพบ ฝึกลับพรสวรรค์ในตัวตนเราให้คมขึ้นเก่งขึ้น เพื่อที่วันหนึ่งจะได้นำสิ่งนั้นมาแสดงออกให้ผู้คนประจักษ์บนเวที

อย่างที่ผมว่าน่ะแหละครับว่า พรสวรรค์อาจเป็นสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ติดตัวเรามาแต่เกิด ทุกๆ คนมีอยู่ เพียงแต่ไม่รู้ตัวเองว่ามี หรือว่าพรสวรรค์เป็นเพียงคำเรียกขานแทนสิ่งที่คนเราจะเก่งกล้าสามารถขึ้นมาได้ เพราะ "รู้จัก" และ "ค้นพบ" ไม่ปฏิเสธในตัวตนที่มีอยู่ แล้วกล้าที่จะหยิบยกสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ลึกๆ ในตัวเราขึ้นมาขัดเกลาทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งสิ่งธรรมดาในสายตาคนอื่นนั้น สามารถฉายแสงออกมาโดดเด่น

เวทีประกวดความสามารถหรือ Talent จากรายการนี้ ไม่ได้จำกัดจำเพาะว่าคุณจะต้องเป็นนักจำอวด เล่นมายากลเก่ง แต่งเพลงเป็นหรือร้องเพลงได้ กล้าบุกน้ำลุยไฟ เต้นระบำในจังหวะและลีลาต่างๆ นานา หรือร้องเพลงประกอบท่าโยคะ เป็นคนปกติธรรมดาหรือร่างกายพิกลพิการ แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็น "การเข้าถึง" และ "ตีความ" ความหมายของคำว่าพรสวรรค์จากผู้คนเรือนหมื่นเรือนแสนทั่วเมืองไทยที่ให้ความสนใจเข้าร่วมแข่งขันกันอย่างคึกคัก จนกระทั่งผ่านการคัดเลือกของผู้ชมจากการลงคะแนนโหวตทางโทรศัพท์เหลือเพียง 12 ผู้เข้าแข่งขันแค่นั้น

เราอาจจะดูรายการนี้ด้วยความสนุกจากความบันเทิงในจังหวะลีลาของการแสดงก็จริง แต่ผมเชื่อว่าแม้ทุกๆ คนบนเวทีแห่งนี้จะเก่งหรือมีความสามารถติดตัวมาซึ่งทำให้โดดเด่นหรือทำสิ่งนั้นได้ดีกว่าคนอื่นๆ ที่มีความสามารถอย่างเดียวกัน แต่ทุกๆ คนกว่าจะก้าวขึ้นมาเป็น "ที่หนึ่ง" ในจุดที่ตัวเองแสดงออกได้นั้น คงต้องผ่านการซ้อมอย่างหนัก จะต้องมีการฝึกฝนเพื่อทำให้ดี สวยงาม สนุกและลงตัวมากที่สุด ใช่เพียงเกิดมามีความสามารถแล้วไม่ทำอะไรเพื่อต่อเติมหรือฝึกฝนเพื่อไปสู่จุดที่ดีที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดที่พรสวรรค์ในตัวเองจะก้าวไปได้

นานมาแล้วผมเคยอ่านบทความในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐโดยผู้เขียนที่ใช้นามปากกาว่า "แรม" (ซึ่งผมอาจจะจำผิด) เขา (หรือเธอ) ตั้งชื่อบทความไว้ว่า "อย่าเอาแสงสว่างไปซ่อนไว้ใต้หิน" ซึ่งบอกเล่าทำนองว่า คนเราทุกคนมีแสงสว่างหรือความสามารถในตัวเองทุกคน เปรียบเสมือนแสงจันทร์ที่สุกสว่าง หรือมีข้อดีในตัวด้วยกันทุกคน ขอเพียงเรามีความเชื่อมั่น ยอมรับในตัวเอง และไม่ลังเลที่จะหาหนทางที่จะปล่อยแสงออกมาก็จะประสบความสำเร็จ แต่หากเราขลาดกลัวแล้วเก็บความสามารถหรือแสงในตัวเองไปซุกไว้ใต้ก้อนหินเสียแล้ว ก็คงไม่มีใครมองเห็น

การเกิดมาเก่งหรือเกิดมาพร้อมพรสวรรค์น่ะไม่น่ากลัว แต่ที่น่ากลัวคือคนเก่งแต่ไม่ฝึกฝน ทะนงตนเพราะคิดเอาเองว่าตัวเองดีแล้ว เก่งแล้ว เหนือกว่าคนอื่นแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น