วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ภาษาดอกไม้


ฉันเป็นโคนันทวิศาลค่ะ ชอบคนพูดเพราะ และเชื่อว่าทุกคนก็น่าจะชอบคนพูดเพราะเหมือนกัน เวลาใครมาพูดห้วนๆ ใส่ ทั้งๆ ที่เราพูดดีด้วย สเกลความไม่พอใจบนหน้าปัดอารมณ์ของฉันจะกระดิกทันที ปฏิกิริยาตอบสนองไวเกินคือนิสัยเสียของฉัน แต่พักหลังเริ่มดีขึ้น (นิดเดียว)

เท่าที่สังเกตคนที่ทำงานบริการและงานขายมักจะเป็นฝ่ายถูกลูกค้าไล่บี้อยู่เสมอ จากประสบการณ์ที่เคยเปิดร้านเสื้อที่จตุจักร แม่ค้าอย่างฉันโดนลูกค้าพูดจาห้วนๆ ใส่เป็นประจำ บางคนโตกว่า บางคนวัยไล่เลี่ย และบ่อยครั้งที่คนมีอายุน้อยกว่าสอบถามและต่อรองราคาราวกับกำลังสำรากขากถุยใส่ฉัน

และก็คนที่ทำงานบริการและงานขายอีกเหมือนกันที่มักจะพูดห้วน น้ำเสียงแห้งแล้ง ไม่รู้เป็นเพราะโดนมาเยอะหรือไง บางครั้งแม้ไม่ได้พูดจาด้วยถ้อยคำหยาบคาย แต่การแสดงอวัจนภาษาปั้นปึ่ง มึนตึง เฉยชา ก็ไม่แตกต่างจากคำพูดแบบไม่มะนาวไม่มีน้ำเท่าไหร่ ไม่รู้เป็นเพราะ 1. เขาเบื่องาน 2. วันนี้เขาอารมณ์ไม่ดี 3. เขาทะเลาะกับแฟน 4. เขาเมนส์มา  หรือ 5.เขาไม่มีความสุข
ฉะนั้น ถ้าเลือกได้ ฉันก็เลือกที่จะเลี่ยงร้านพูดไม่เพราะ ถ้าร้านไหนพูดจาดี ก็สมัครเป็นลูกค้าขาประจำ

บรรดาแม่ค้าตลาดสดมักโดนกาหัวไว้ก่อนว่าเป็นพวก ปากตลาด ซึ่งน่าจะหมายถึงทั้งพูดจาไม่ไพเราะรื่นหู และด่าเก่งจนไม่ควรคิดมีข้อพิพาทด้วย แต่แม่ค้าที่พูดเพราะเสนาะโสตก็มีไม่น้อย อย่างป้าขายผักร้านประจำที่ตลาดแถวบ้านฉัน

ตลาดที่ว่าเป็นลานกว้างขนาดย่อมใกล้ซอยโชคชัยสี่ ที่บรรดาแม่ค้าจะมาตั้งแผงขายของตั้งแต่ 4 โมงเย็นเรื่อยไปจนหมดแสง ในตลาดมีแผงขายผักอยู่หลายแผง แรกๆ ฉันก็สุ่มซื้อกระจายรายได้ไปทั่วๆ พักหลังฉันมุ่งตรงไปที่แผงของป้าแผงเดียว เป็นวันสต็อปช้อปปิ้ง เพราะป้ามีนานาพืชผักให้เลือกครบครัน 
ป้าขายผักผู้มีวาจาไพเราะ
 

แผงของป้านอกจากมีผักมากมายครบถ้วนราวกับเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว ภาษาของป้ายังไพเราะรื่นหูอีกด้วย ป้าจะพูดด้วยน้ำสียงอ่อนโยน ไม่เซ้าซี้ ไม่เชียร์แขก อารมณ์เย็น ลงท้ายด้วยคำว่า ค่ะ ทุกครั้ง เวลามีลูกค้าเว้าอีสานถามราคา ป้าจะตอบกลับด้วยเสียงในฟิล์มโดยอัตโนมัติ และไม่ลืมลงท้ายด้วยคำว่า จ้ะ เสมอ

ถ้าคำพูดสะท้อนความสุข ฉันว่าป้าน่าจะมีความสุขไม่น้อย
และถ้าสำนวนไทยที่ว่า สำเนียงส่อภาษา กริยาส่อสกุล บ่งบอกความเป็นผู้ดีล่ะก็ 
ป้าคือไฮโซของฉันเลยล่ะ



   


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น