วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ญาติเยอะ

ใครที่เป็นแฟนเพลงวงเฉลียง อาจจะคุ้นดีกับคำร้องในเพลง "รู้สึกสบายดี" ที่ว่า


"...เหงาก็คบคน โลกสับสนมีเยอะไป
เพลียก็ตรงไป เก็บโลกสดใสไว้บนเตียง"


ผมเองนั้นไม่ค่อยจะเคยเหงาอย่างเป็นทางการเหมือนคนอื่นๆ นัก ค่าที่ผมเกิดเป็นลูกคนเล็กของบ้านที่มีพ่อแม่พี่น้องอยู่กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งมาก เรียกได้ว่าพอจะตั้งท่าเหงาขึ้นมาเล็กน้อย เป็นต้องมีคนเอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาพูดใส่หู หรือรบเร้าให้เราเข้าไปมีส่วนร่วมวิพากษ์วิจารณ์ได้ในทุกระดับ เรียกว่าผมนั้น "ญาติเยอะ" มาตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้


การมีญาติโดยเฉพาะพ่อแม่พี่น้องใกล้ชิดจากการที่ไม่ได้เกิดมาเป็นลูกคนเดียวเหมือนกระเทียมโทนนั้น สำหรับผมยังเห็นว่า สนุก มีประโยชน์และมีข้อดีมากกว่าข้อเสียอีกมาก แต่ก็อย่างว่าครับ เมื่อมีคนมากเข้า แม้ว่าจะเป็นพ่อแม่พี่น้องญาติของเราเองก็ตาม มันก็เข้าทำนอง "มากคนมากความ" ไปอย่างช่วยไม่ได้


ดังนั้นหากทางธรรม มีพุทธพจน์กล่าวไว้ว่า "อโรคยา ปรมา ลาภา" หรือความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ฉันใด ผมเองนั้นก็ปรารถนาที่จะมีญาติให้น้อยลง หรือบางช่วงอารมณ์ไม่ต้องมีมายุ่งเกี่ยวก็คงจะเป็นลาภอันประเสริฐที่ไม่มีทางเป็นไปได้เลยสำหรับผม


เคยเห็นภาพเวลาที่ฝรั่งมักจะใช้อธิบายความยุ่งยากในการลำดับญาติเพื่อให้ดูเรียบง่ายเข้าใจง่ายที่เรียกว่า Family Tree กันไหมครับ สิ่งนี้จะบอกถึงลำดับญาติและสาแหรกที่มาของเราตั้งแต่ปู่ย่าตาทวด ลงมาหาพ่อแม่ ตัวเราและพี่น้อง ไล่ลงไปหาลูกหลานเหลนโหลน ต้นไม้แห่งสายญาติของใครที่เข้าข่ายญาติเยอะอย่างผมก็คงจะเต็มไปด้วยกิ่งก้านยุ่บยั่บเหมือนต้นไม้ใหญ่อย่างแน่นอน

การมีญาติเยอะนั้นอาจจะมีข้อดีอยู่แค่เพียงยามเทศกาลงานฉลอง ไม่ว่าจะเป็นวันเกิดวันแต่ง ตรุษไทยตรุษจีนไปหาแซยิดของเรา เพราะเงินทองช่วยทำบุญจะไหลมาสู่มือแทบนับไม่ทัน ผมเองนั้นเป็นลูกคนเล็กที่มีพี่น้องบนต้นไม้สายสัมพันธ์หลายคน จำได้ว่าพอถึงช่วงปีใหม่ตอนเด็กๆ นั้น แค่พี่ๆ ให้ตังค์คนละสิบยี่สิบ ผมก็มีเงินมากมายไว้ซื้อขนมหรือของเล่นได้เกินกว่าเพื่อนๆ วัยเดียวกันแล้ว


แต่ส่วนที่น่าปวดหัวจนอยากจะปลีกตัวไปลองเหงาเหมือนคนที่เกิดเป็นลูกคนเดียวหรือคนที่ญาติน้อยๆ ดูบ้างก็คือ การที่จะต้องคอยต้อนรับขับสู้เวลาญาติจะไปจะมา คอยรับสายโทรศัพท์เพื่อติดต่อสื่อสารเวลาพ่อแม่พี่น้องอยากจะถามไถ่ทุกข์สุขขึ้นมา ต้องหาที่กินข้าวเย็นร่วมโต๊ะกัน ต้องไปร่วมงานบวชงานแต่งหรือกระทั่งงานศพของญาติ เรียกได้ว่ามีรายการสิ่งของต้องสำแดงหากคุณมีญาติเยอะ และยังปรารถนาที่จะถูกนับญาติอยู่ให้ต้องทำอีกเพียบ ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นพี่ที่ดี เป็นน้องที่ดี เป็นน้าอาป้าลุงที่หลานๆ รัก


ล่าสุดญาติผมขบวนหนึ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อเยี่ยมผมและจัดการธุระปะปังเรื่องการเรียนต่อของหลานสาวที่กรุงเทพฯ ผมจึงมีโอกาสเจอแม่ เจอพี่สาวคนที่สาม เจอพี่สาวคนที่หก เจอพี่เขยแฟนพี่สาวคนที่หก เจอหลานชายและหลานสาวลูกพี่สาวคนที่สามและพี่สาวคนที่หก รวมแล้วอีกสี่คน หากคิดว่าจำนวนคนที่ผมว่ามาเยอะแล้ว ขอบอกว่านี่เป็นเพียงเรื่องย่อหรือขบวนย่อมๆ ของสายสัมพันธ์จากญาติสนิทที่ผมมีอยู่เท่านั้นเอง


เมื่อเจอพี่ๆ และแม่ การพูดคุยเรื่องต่างๆ นานาสารพันก็เกิดขึ้น หลักๆ ก็วนอยู่กับเรื่องสารทุกข์สุกดิบ การทำงานและการเรียนต่อของหลานๆ แต่ทุกคนก็ไม่วายที่จะมีความเห็น และอยากให้ความคิดเห็นของตัวเองเป็นที่รับฟัง และถูกนำไปปฏิบัติด้วยกันทั้งนั้น ทั้งความคิดความเห็นที่ต้องการและไม่ต้องการ จึงกลายเป็นความเห็นด้วยและข้อขัดแย้งที่เสริมส่งและหักล้างกันอยู่ตลอดการสนทนาเจอะเจอกัน


จึงเป็นธรรมดาที่เมื่อมีญาติเยอะคนเราจำเป็นต้องพัฒนากลไกของการ "ฟังหูไว้หู" หรือการรับฟังแต่ไม่ต้องมีความคิดเห็นของเราเองไปเสริมส่ง เรียกว่าพยักเพยิดไปเพื่อให้อยู่รอดหรือรอดพ้นได้โดยไม่ต้องฝักใฝ่ฝ่ายใด


ผมจึงกลายเป็นลูกคนเล็กและน้องคนเล็กผู้มีกลไกการเอาหูไปตาเอาตาไปไร่ เป็นคนที่อะไรก็ได้ไปกับคนอื่นเพราะไม่อยากจะมีปากเสียง และไม่ค่อยจะมีความเหงาของตัวเองเช่นที่เป็นอยู่ตอนนี้ไปอย่างช่วยไม่ได้

2 ความคิดเห็น:

  1. เหตุการช่วงสุดสัปดาห์ ที่ผ่านมาวุ่นวายจริงๆครับ Confirmed!!!

    ลูกชายของพี่สาวคนที่สาม

    ตอบลบ
  2. 555 วุ่นวายจริงๆ หนอ ทุกข์หนอ...จากน้าชายคนที่สอง

    ตอบลบ