วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2554

ดอกไม้...เบ่งบาน

สายวันหนึ่งกลางฤดูร้อน บรรยากาศภายนอกเงียบสงบดูราวกับไม่ใช่กรุงเทพฯ แต่นี่คือกรุงเทพฯ ในยามเทศกาลซึ่งเป็นวันหยุดยาว เสียงรถราบนท้องถนนภายนอกพากันวิ่งฉิว ไม่ติดขัดจอแจเหมือนเช่นทุกๆ วัน

แล้วผมก็มาหยุดมองออกไปหน้าบ้านตรงนอกระเบียงเล็กๆ ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ ดอกเข็มอุณากรรณสีชมพูระเรื่อดอกหนึ่งเบ่งบานเผยกลีบดอกห้าแฉก ดูสดใสเริงร่าทักทายมาจากด้านนอก ต้นไม้ที่ระเบียงของบ้านเราเองนั้นดูน่ารักและมีชีวิตชีวา แตกต่างไปจากดอกเสลาอินทนิลที่ยืนต้นผลิดอกบานโผล่พ้นจากริมถนนขึ้นมาถึงระเบียงให้เห็น ซึ่งเราไม่ได้รดน้ำพรวนดิน

กว่าที่ดอกไม้ดอกหนึ่งจะเบ่งบานได้นั้นเป็นเรื่องที่แสนจะธรรมดาเรียบง่าย ขณะเดียวกันก็ยังเป็นเรื่องที่แสนจะสลับซับซ้อนในวงจรการทำงานของสิ่งมีชีวิต

บางคราไม่ว่าเราจะขยับสลับวางต้นไม้สักต้น รดน้ำ เปลี่ยนดิน ใส่ปุ๋ยอย่างไร ต้นไม้ต้นนั้นที่วาดหวังว่าอยากจะเห็นดอกก็ไม่เคยออกดอกมาให้ชื่นชม แต่บางครั้งเมื่อเราหลงๆ ลืมๆ ใส่ใจบ้างไม่ใส่ใจบ้าง เหลียวมองดูอีกทีต้นไม้ในกระถางที่ถูกวางทิ้งเอาไว้แทบจะไม่ใส่ใจก็กลับมีดอกงามผลิบานอวดโฉมให้ได้เห็น อาจเป็นเพราะฤดูกาล การทำงานของละอองเกสร ความเหมาะสมของอุณหภูมิความร้อน ปริมาณแสง ธาตุอาหาร น้ำที่ได้รับ ดอกไม้ดอกหนึ่งก็ถึงกาลเบ่งบาน ดูราวกับว่าสรรพสิ่งมีกาลเวลาและความถึงพร้อมในตัวของมันเอง ยากที่ใครหรือสิ่งใดจะไปกำหนดกวดขัน

ดอกไม้ภายนอกผลิบานเพียงดอกหนึ่ง ยังส่งผลสะเทือนถึงความรู้สึกภายในของผู้ที่ได้พบเห็น
แล้วดอกไม้ในตัวของเราเองเล่า ...

......................................

ดอกไม้ในตัวของเราเองเล่า เมื่อใดจึงจะผลิบาน และจะเบ่งบานได้ก็ต่อเมื่อถึงพร้อมด้วยสิ่งใดบ้าง

เป็นเวลานานพอดูแล้วที่ผมไม่ได้เอาจริงเอาจังกับการรดน้ำ พรวนดิน สลับสับวางที่ทางของกระถางในจิตใจของตัวเอง จริงอยู่วันวันหนึ่งคนเราอาจจะมีกิจกรรมที่หลากหลาย ได้กินอาหารรสชาติอร่อยถูกปาก ดูรายการทีวีที่พาให้เกิดความรู้สึกมากมาย ฟังเพลงหรือพูดคุยสัพเพเหระกับเพื่อนๆ ผ่านทางหน้าสังคมออนไลน์ ใช้เวลาซื้อหาหนังสือมากมายเอามาไว้ในกองสะสมมากกว่าที่จะได้ลงมืออ่านอย่างจริงๆ จังๆ หรือแค่ปล่อยให้วันวันหนึ่งผ่านไปโดยแทบจะไม่ทันมีสติพอที่จะบอกตัวเองแค่ให้สูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ยาวๆ เอาไว้เสมอเมื่อรู้ตัว

ตลอดเวลาสรรพสิ่งก็เคลื่อนผ่านไปอย่างรู้ตัวบ้างไม่รู้ตัวบ้าง มีรสชาติบ้างไม่มีรสชาติบ้าง ทำงานบ้างเกียจคร้านบ้าง เบื่อหน่ายบ้างมีพลังคึกคักบ้าง ใช้ชีวิตบ้างและปล่อยให้เวลาของชีวิตเลื่อนไหลไปเองอย่างเลื่อนลอยบ้าง ดังนี้แล้วดอกไม้ในกระถางในตัวเราจะเบ่งบานได้ด้วยความถึงพร้อมของปัจจัยใดบ้างก็ไม่รู้
......................................
 ผมเองอาจจะคาดหวังถึงการมาถึงของดอกไม้ในจิตใจ ซึ่งเป็นความรู้สึกของความสดชื่นและการมีกำลังใจในการคิดการลงมือทำสิ่งต่างๆ แต่ก็ไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะรู้สึกหรือยอมรับกับตัวเองว่าเราได้เห็นดอกผลของการใช้ชีวิตเบ่งบานออกมาแล้วตามวิถีทางที่ควรจะเป็นของมันเอง

ในระหว่างมีชีวิต ระหว่างเรื่องราวหลากหลายของการเกิดและการดับ คนเราควรจะมีดอกไม้เบ่งบานออกจากจิตใจของเราเองสักกี่ดอก ที่เราเองอาจนับการเบ่งบานนั้นได้และชื่นชมการผลิบาน...

เรื่อง: อิท มะดินกี่
madinki@yahoo.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น