วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

หมวยแห่งสยาม

รูปฉันน่ารักและตาโตเกินจริงรูปนี้วาดโดยคุณน้อยหน่า 

ฉันเป็นลูกคนจีนค่ะ แค่มองตาก็รู้แล้ว ไม่ทันต้องถามชื่อแซ่ ยิ่งพอบอกชื่อเล่นเป็นอันคอนเฟิร์มว่าจีนชัวร์
ตอนเด็กๆ ใครถามชื่อเล่นไม่ค่อยอยากบอก จี๊นจีน ไม่เก๋เอาซะเลย นึกสงสัยว่าทำไมพ่อแม่ไม่ตั้งชื่อน่ารักๆ เหมือนลูกพี่ลูกน้องวัยไล่เลี่ยกันบ้าง เค้าชื่อนิ้ง หน่อง นุก งี้ ทันสมัยกว่าชื่อหมวยตั้งเยอะ
แต่ชื่อเล่นเบๆ ของฉันก็มีมุกฮาอยู่เรื่องหนึ่ง ตอนอายุไม่น่าจะเกิน 10 ขวบ แม่ใช้ให้ไปซื้อผักที่ตลาด ความที่เป็นเด็ก ฉันไม่กล้าถามหาผักจากแม่ค้า เพราะยำเกรงเหล่าแม่ค้าเสียงดังพูดห้วน จำได้ว่าระหว่างยืนงงอยู่หน้าแผง กำลังมีสมาธิกับการเล็งหาผักที่แม่บอกให้ซื้อ ฉันได้ยินเสียงแม่ค้าที่นั่งอยู่บนแผงถามว่า เอาอะไรหมวย
บอกตามตรงว่างงมาก ฉันละสายตาจากนานาผักใบเขียวขึ้นสบตาแม่ค้า ดวงตาตี่ๆ มีแววสงสัย คำถามผุดขึ้นในหัวสมองทันที ทำไมเค้ารู้จักชื่อเราด้วย
กระนั้นแววตาของเจ้าของเสียงกลับไม่ได้ทีท่าว่ารู้จักฉันแม้แต่น้อย
ฉันเฝ้าเก็บงำความสงสัยว่าเหตุใดแม่ค้าถึงรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของฉัน กว่าจะได้คำตอบก็โตขึ้นจนพอรู้ความว่า แท้จริงแล้วแม่ค้ามิได้รู้จักฉันแม้แต่น้อย เขาเห็นเด็กจีนหน้าตาซินตึ๊ง ก็เหมารวมเรียกตี๋เรียกหมวยเป็นคำกลางๆ ก็เท่านั้นเอง
พอเริ่มเข้าวัยรุ่น พี่ชายสองคนคงไม่ชอบชื่อเล่นของตัวเองเหมือนกัน เพราะได้ยินเพื่อนๆ เรียกพี่ว่าเนศกับนิต มาจากพยางค์สุดท้ายของชื่อจริงคือธเนศและธนิต ฟังเสียงดูแล้วก็เก๋ไก๋ใช้ได้ แต่ฉันช่างไร้วาสนา เพราะชื่อจริงว่าธนาพร จะให้เพื่อนเรียกว่าพร ฉันว่าไม่ผ่าน มีอันต้องชื่อหมวยเหมือนเดิม
ตอนนี้พี่สองคนแต่งงานและมีลูกแล้ว พี่คนโตตั้งชื่อลูกชายว่ามีน พอมีลูกสาว พี่ชายตั้งชื่อว่าจีน ส่วนพี่ชายคนรองตั้งชื่อลูกสาวคนแรกว่านีร (อ่านว่านีน แปลว่าน้ำ)
ฉันบอกพี่ๆ ว่าทำไมลูกหลานบ้านเรามีแต่ชื่อสระอีน เสียงมันใกล้เคียงกันมาก เวลาจะเรียกใครที อาจสับสนได้
ฉันและอิทปล่อยมุกชั่วออกไปว่า บ้านเรามีหลานชื่อมีน จีน และนีรแล้ว ถ้าเราสองคนมีลูก เพื่อความคล้องจอง ควรตั้งลูกชื่อว่า ตีน
โชคดีที่ไม่มีเด็กโชคร้ายคนไหนเกิดมาเป็นลูกฉัน จึงยังไม่มีเด็กคนไหนถูกตั้งชื่อว่าตีน (หรือว่ามี ใครจะรู้)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น