วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

My life is brilliant


ตอนขับรถไปซูเปอร์มาร์เก็ตช่วงสายวันนี้ รายการวิทยุเปิดเพลง You’re beautiful ของ James Blunt ที่ไม่ได้ฟังมานาน ประโยคแรกของเพลงทำให้ฉันเกิดคำถามว่า ใครกันบ้างหนอที่สามารถประกาศก้องว่า เจ้าข้าเอ๊ย ชีวิตฉันช่างแสนเจิดจรัส สว่างไสว ดีงามจริงจริ๊ง  

คิดแล้วก็ถามตัวเองแล้วชีวิตแกไม่ดีตรงไหน...
เออ นั่นสิ

ตั้งแต่เล็กจนบัดนี้ ไม่เคยมีวันไหนไม่มีข้าวกินครบ 3 มื้อ (ยกเว้นวันล้างพิษ อดหลายมื้อ แล้วกลับมากินสมทบตามหลังอีกหลายมื้ออย่างครบถ้วน) พ่อแม่ส่งเสียให้เรียนหนังสือครบตามเกณฑ์สูงสุด พอจะพึงเรียกได้ว่าเป็นผู้มีการศึกษา มีเพื่อนวัยเรียนและวัยทำงานที่บัดนี้ยังคบกันอยู่จนเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนแท้ มีคู่ชีวิตร่วมเรียงเคียงหมอนนอนกรนเสียงดัง จนบางทีอยากเอาหมอนปิดปาก แต่คืนไหนต้องนอนเดี่ยว เตียงก็ดูจะกว้างและอ้างว้างเกินไป มีงานประจำให้ทำ แต่ดันลาออกมาเป็นฟรีแลนซ์ แม้มีรายได้ไม่แน่นอน แต่ก็กำหนดวันทำงานและวันหยุดของตัวเองได้ และสุดท้ายได้ไปในที่ที่ชอบ ณ ขณะที่ยังมีลมหายใจ

มองดูแล้ว ชีวิตฉันก็ไม่ได้ขี้ริ้วอะไร
ไม่ได้หยิ่งผยอง ว่าไปแล้ว ชีวิตฉันก็ดีงามมิใช่น้อย


หลายครั้งเราอดเปรียบเทียบความสุข ความสำเร็จ เงินทอง โชคลาภวาสนากับผู้ที่เราคิดว่ารวยกว่า เก่งกว่า สวยกว่าไม่ได้
โชคดีที่ (พอจะ) มีธรรมะให้รู้จักชื่นชมยินดีกับผู้อื่นและเรียนรู้ว่าความสำเร็จมีบันไดหลายขั้น
โชคดีที่แม้จะติดละครทีวีบ้าง แต่ก็ไม่เคยนึกริษยาชีวิตใคร (เท่าที่จำได้อะนะ)

ขอบคุณพ่อแม่ที่สอนสั่งและให้ความรู้เป็นแสงสว่างนำทางชีวิต
ขอบคุณพี่ (ไม่มีน้อง) ที่ทะเลาะตบตีแย่งของเล่นในตอนเด็ก แต่พร้อมหยิบยื่นความช่วยเหลือเมื่อเติบโต
ขอบคุณคู่ชีวิตที่แม้จะนวดไม่เป็น แต่ก็เต็มใจนวดไหล่ให้ยามฉันบ่นปวดหลัง ขอบคุณที่เป็นเข็มทิศนำทางฉันไปในที่ที่ชอบ 
ขอบคุณเพื่อนที่โตมาด้วยกัน และยินยอมรับฟังทั้งคำพูดเพ้อเจ้อ เรื่องเล่าไร้สาระ และปัญหาเล็กใหญ่

ชีวิตนี้ถ้ามีคนพร้อมจะหัวเราะและร้องไห้ไปกับเรา
ฉันว่า my life ก็ brilliant  แล้วล่ะ

เรื่อง: เทียนอันหมวย

1 ความคิดเห็น: